|
ประกันชีวิตมีกี่ประเภท และวิธีเลือกทำประกันชีวิตให้เหมาะกับแต่ละช่วงวัย | |
verny |
ประกันชีวิตมีประโยชน์ที่หลากหลายทั้งฝึกวินัยในการออมและยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วย แต่ดูเหมือนจะมีประกันชีวิตอยู่มากมายหลายแบบให้เลือกจนไม่รู้ว่า ประกันชีวิตแบบไหนดี ถ้าอย่างนั้นก่อนที่จะซื้อประกันชีวิตก็ควรจะรู้ก่อนว่า ประกันชีวิตมีกี่ประเภท เพื่อจะได้เลือกให้เหมาะกับความต้องการตามช่วงอายุของผู้เอาประกัน โดยประกันชีวิตมีกี่ประเภท เราสามารถแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ ได้แก่ ประกันชีวิตแบบพื้นฐานและประกันชีวิตแบบพิเศษ เริ่มต้นที่ประกันชีวิตแบบพื้นฐาน ซึ่งประกันชีวิต มีอะไรบ้าง มีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิตของผู้เอาประกันหรือคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี กรณีเสียชีวิตระหว่างสัญญา ผู้รับผลประโยชน์ก็จะได้รับเงินเอาประกัน แต่หากอยู่จนครบสัญญาก็จะได้ทุนประกัน ประกันชีวิตแบบตลอดชีพเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำงานหรือผู้ที่กำลังสร้างครอบครัวและต้องการส่งมอบมรดกให้ทายาท หรือต้องการสร้างความมั่นคงให้คนที่อยู่ข้างหลัง ประกันชีวิตแบบตลอดชีพมีเบี้ยประกันค่อนข้างต่ำและมีระยะเวลาชำระเบี้ยประกันนาน เช่น 20 ปี ประกันสะสมทรัพย์ เป็นประกันที่มีระยะชำระเบี้ยประกันและระยะเวลาคุ้มครองที่แน่นอน เช่น ชำระเบี้ยประกัน 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี เป็นต้น กรณีเสียชีวิตระหว่างสัญญาผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินเอาประกัน แต่หากผู้เอาประกันอยู่จนครบสัญญาก็จะได้รับเงินออมทรัพย์ที่สะสมไว้ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ลดหย่อนภาษีเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนจากการออมที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และเหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายในการออมเงิน ประกันชีวิตสะสมทรัพย์จะได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประกันชีวิตแบบตลอดชีพ เนื่องจากต้องจัดสรรเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินออมให้กับผู้เอาประกัน ประกันชีวิตแบบบำนาญหรือเงินได้ประจำ เป็นประกันที่ผู้เอาประกันชำระเบี้ยประกันตามสัญญา แต่จะได้รับเงินคืนเมื่ออายุ 55 ปี หรือ 60 ปี เพื่อใช้หลังเกษียณอายุ โดยเงินคืนจะไม่ได้รับเป็นเงินก้อน แต่จะได้รับเป็นงวด และจ่ายต่อเนื่องจนครบสัญญา เป็นประกันที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณอายุ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา เป็นประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันต่ำและไม่ได้รับเงินคืน นอกจากเงินเอาประกันกรณีเสียชีวิตระหว่างสัญญาเท่านั้น เป็นประกันชีวิตที่เหมาะสำหรับผู้เอาประกันที่ไม่ต้องการสร้างภาระให้คนที่อยู่ข้างหลัง เช่น ทำงานที่เสี่ยงอันตรายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรืออยู่ในช่วงกำลังสร้างธุรกิจ เพิ่งซื้อบ้าน หรือลูกกำลังเล็กมาก ซึ่งหากเสียชีวิตในช่วงเวลาดังกล่าวจะสร้างปัญหาให้กับคนที่อยู่ข้างหลัง และเหมาะกับผู้เอาประกันที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตแต่ไม่อยากจ่ายเบี้ยประกันสูง โดยระยะเวลาความคุ้มครองสามารถเลือกได้ ไม่ว่าจะเป็น 5 ปี 7 ปี หรือ 10 ปี เป็นต้น สำหรับใครที่อยากได้ประกันมาเสริมเพิ่มเติมจากประกันชีวิตพื้นฐาน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้ ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิตและนำเบี้ยประกันส่วนหนึ่งไปลงทุนเพื่อโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น เหมาะกับผู้เอาประกันที่มีความรู้เรื่องการลงทุนและยอมรับความเสี่ยงได้ ประกันผู้สูงอายุ หรือถ้าคุณเป็นคนอายุเยอะแล้ว ก็มีประกันที่ผู้เอาประกันต้องมีอายุ 50 – 70 ปี หรือตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ โดยผู้เอาประกันจะได้รับความคุ้มครองการเสียชีวิตทั้งกรณีอุบัติเหตุและเจ็บป่วย เหมาะกับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการเป็นภาระลูกหลาน เมื่อเสียชีวิตระหว่างสัญญาผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินเอาประกันหรืออยู่ครบสัญญาก็จะได้รับเงินคืนด้วย |
ผู้ตั้งกระทู้ verny (verntogo-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2024-01-13 12:28:55 IP : 134.236.22.145 |
Copyright © www.bhomesproperty.com 2013 All Rights Reserved. |