|
พันธะไอออนิก | |
xxxx | พันธะไอออนิกจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการเปลี่ยนแปลงพลังงานโดยรวมสำหรับปฏิกิริยานั้นเอื้ออำนวย โดยทั่วไปปฏิกิริยาจะคายความร้อน แต่เช่นการก่อตัวของเมอร์คิวริกออกไซด์ (HgO) เป็นการดูดความร้อน ประจุของไอออนที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยหลักในความแข็งแรงของพันธะไอออนิกเช่นเกลือ C + A -ถูกจับเข้าด้วยกันด้วยแรงไฟฟ้าสถิตที่อ่อนกว่า C 2+ A 2 roughly ประมาณสี่เท่าตามกฎหมายคูลอมบ์โดยที่ C และ A แทนไอออนบวกและไอออนทั่วไปตามลำดับ ขนาดของไอออนและการบรรจุเฉพาะของตาข่ายจะถูกละเว้นในอาร์กิวเมนต์ที่ค่อนข้างง่ายนี้ เปรียบเทียบกับพันธะโคเวเลนต์ในพันธะไอออนิกอะตอมถูกผูกมัดด้วยแรงดึงดูดของไอออนที่มีประจุตรงข้ามในขณะที่ในพันธะโควาเลนต์อะตอมถูกผูกมัดโดยการแบ่งปันอิเล็กตรอนเพื่อให้ได้รูปแบบของอิเล็กตรอนที่เสถียร ในพันธะโควาเลนต์เรขาคณิตโมเลกุลรอบแต่ละอะตอมถูกกำหนดโดยกฎวาเลนซ์เชลล์อิเล็กตรอนคู่แรงขับไล่VSEPRในขณะที่ในวัสดุไอออนิกเรขาคณิตเป็นไปตามกฎการบรรจุสูงสุด อาจกล่าวได้ว่าพันธะโคเวเลนต์มีทิศทางมากกว่าในแง่ที่ว่าโทษพลังงานสำหรับการไม่ยึดติดกับมุมพันธะที่เหมาะสมนั้นมีมากในขณะที่พันธะไอออนิกไม่มีโทษดังกล่าว ไม่มีคู่อิเล็กตรอนที่ใช้ร่วมกันเพื่อขับไล่ซึ่งกันและกันไอออนควรได้รับการบรรจุอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด นี้มักจะนำไปสู่การเพิ่มสูงขึ้นมากตัวเลขการประสานงาน ใน NaCl แต่ละไอออนมี 6 พันธะและมุมพันธะทั้งหมดคือ 90 ° ใน CsCl หมายเลขโคออร์ดิเนชันคือ 8 โดยปกติแล้วคาร์บอน การกำจัดอิเล็กตรอนออกจากไอออนบวกเป็นการดูดความร้อนทำให้พลังงานโดยรวมของระบบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังอาจมีการเปลี่ยนแปลงพลังงานที่เกี่ยวข้องกับการทำลายพันธะที่มีอยู่หรือการเพิ่มอิเล็กตรอนมากกว่าหนึ่งตัวเพื่อสร้างแอนไอออน อย่างไรก็ตามการกระทำของแอนไอออนที่ยอมรับเวเลนซ์อิเล็กตรอนของไอออนบวกและแรงดึงดูดที่ตามมาของไอออนต่อกันและกันจะปล่อยพลังงาน (ตาข่าย) ออกมาและทำให้พลังงานโดยรวมของระบบลดลง |
ผู้ตั้งกระทู้ xxxx (bamkannika003132-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2020-10-14 11:51:31 IP : 49.228.23.114 |
Copyright © www.bhomesproperty.com 2013 All Rights Reserved. |