ท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ไปตะลุยท่องเที่ยวรวมทั้งเช็กอินสถานที่เที่ยวแลนด์มาร์แขนวมทั้งสถานที่เที่ยวสุดเป็นที่นิยมของคนทันสมัย มีแม้ว่าท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วัด รวมทั้งร้านขายกาแฟชิคๆ

จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสมัยอยุธยาและสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เด่น แต่ที่มีมากกว่าประวัติศาสตร์ก็คือเป็นขุมทรัพย์ธรรมชาติที่สำคัญของประเทศไทยทางภาคตะวันตก มีแนวเขาและก็ป่าดงที่สวยงามสมบูรณ์บริบูรณ์ พร้อมทั้งยังมีวัฒนธรรมมากไม่น้อยเลยทีเดียวของมนุษย์แว่นแคว้นซ่อนตัวอยู่ ก็เลยทำให้จังหวัดกาญจนบุรีมีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวล้นหลาม ในตอนนี้ก็ยังมีแลนด์มาร์กใหม่ๆเกิดขึ้นอีกหลายที่ แปลงเป็นสถานที่เที่ยวไทยที่ใครๆก็ปรารถนาไปสัมผัสกันสักหนึ่งครั้ง และเพื่อการเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีครั้งถัดมาฟินรวมทั้งดีต่อสถาพทางจิตใจ เราก็เลยได้เก็บสถานที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีแบบจัดเต็มมาไว้ให้นี้แล้วจ้ะ แชร์เก็บไว้กันได้เลย

1. สะพานผ่านแม่น้ำแคว

มาถึงจังหวัดกาญจนบุรีแล้วหากว่าไม่ได้มาเช็กอินที่สะพานผ่านแม่น้ำแควก็อย่างกับมาไม่ถึง เนื่องจากนี้เป็นเหมือนดั่งสัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี มีประวัติศาสตร์เป็นเวลายาวนาน สร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยแรงงานของเชลยสงครามฝ่ายสัมพันธมิตร ตัวสะพานสร้างด้วยเหล็กแทนของเดิมที่เป็นสะพานไม้ ใช้สำหรับเป็นทางเท้าของรถไฟที่จะมุ่งหน้าไปยังสถานีน้ำตกไทรโยค ไฮไลต์ของการเที่ยวมองนี้จะอยู่ตอนที่รถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งผู้เดินทางสามารถที่จะซื้อตั๋วรถไฟนั่งผ่านสะพานได้ด้วย และก็เวลาที่ไม่มีรถไฟวิ่งผ่านก็สามารถเดินขึ้นไปท่องเที่ยวดูแล้วก็ถ่ายรูปบนสะพานได้เหมือนกัน เสนอแนะว่าให้ทดลองนั่งกินข้าวที่ร้านอาหารชายน้ำใกล้ๆกับสะพานผ่านแม่น้ำแคว เพื่อมองทัศนียภาพยามเย็น บรรยากาศสบายๆชิลไปอีกในลัษณะหนึ่ง บทความโดย บาคาร่า

2. วัดถ้ำเสือ

แลนด์มาร์กที่สำคัญอีกที่ของจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยมีสถาปัตยกรรมที่งามแปลกตา มีพุทธปฏิมาปางประทานพรขนาดใหญ่ พร้อมทั้งวิหารทรงผสมระหว่างสไตล์ไทย-จีน อยู่บนยอดดอย นักท่องเที่ยว เกม 918kiss สามารถที่จะเดินขึ้นบันได 157 ขั้น ขึ้นไปด้านบน หรือจะใช้บริการรถรางไฟฟ้าก็ได้ เว้นเสียแต่พระพุทธรูปปางประทานพรแล้ว ก็ยังมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่บนยอดพระราชสำนักเจดีย์เกษแก้วมหาวังด้วย แล้วก็จากบริเวณวัดก็สามารถแลเห็นทิวภาพมุมสูงบริเวณรอบๆได้อย่างงดงามเยอะแยะๆหากว่ามาช่วงเย็นก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ลับฟ้าท่ามกลางบรรยากาศของท้องไร่นาและป่าเขา เรียกได้ว่าอิ่มทั้งบุญและก็หัวใจกันอย่างยิ่งจริงๆ

3. ต้นจามจุรียักษ์

ต้นไม้ที่แก่มากกว่า 100 ปี มีขนาดใหญ่มากไม่น้อยเลยทีเดียว รัศมีทรงพุ่มของต้นประมาณ25.87 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลางของร่มเงายาวประมาณ51.75 เมตร สูงประมาณ20 เมตร แผ่กิ่งไม้ออกไปเป็นหลักที่กว้าง บรรยากาศร่มรื่น ใกล้ๆกันนั้นเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่จามจุรี สามารถจำนวนมากราบไหว้ขอพรกันได้ทุกๆวัน

4. น้ำตกไทรโยคน้อย แล้วก็น้ำตกไทรโยคใหญ่

น้ำตกไทรโยคน้อย แล้วก็น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกาญจนบุรีมาตั้งแต่อดีต ด้วยมีความงามและสามารถเข้าท่องเที่ยวมองได้ง่าย สำหรับน้ำตกไทรโยคน้อย ตั้งอยู่บริเวณริมถนนแสงไฟชูโต ใกล้กับสถานีรถไฟน้ำตก มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูน สูงราว 15 เมตร ขณะที่มีน้ำไม่น้อยเลยทีเดียวสายน้ำตกจะไหลลงมาจากด้านบนอย่างงดงาม มีแอ่งน้ำด้านล่าง สามารถเล่นน้ำได้ ส่วนน้ำตกไทรโยคใหญ่ ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำแควน้อย จึงควรนั่งเรือจากที่ปฏิบัติอุทยานแห่งชาติไทรโยคเข้าไปท่องเที่ยวมอง ที่ตรงนี้มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนด้วยเหมือนกัน สูงคร่าวๆ 10 เมตร แผ่กว้างไปตามเขาหินของแนวเขา สายน้ำเยอะมากจะไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย เป็นน้ำตกที่งามแปลกตาไม่เสมอเหมือนที่ใด

5. เมืองดอกมะลิ รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๔

สถานที่เที่ยวแบบย้อนยุค มีการตกแต่งสถานที่ต่างๆให้มีบรรยากาศที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวไทยบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะมากๆ สมควรแก่การแต่งชุดไทยสวยๆท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่กับอาคารต่างๆจุดที่น่าสนใจ อย่างเช่น สะพานหัน, ย่านการค้า, ห้องพักมองเมือง, เรือนผู้เดียว, เรือนคนรวย, โรงครัว, เรือนกรุ๊ป, เรือนแพ, ลานมะลิ, เรือนไทยกรุ๊ป อื่นๆอีกมากมาย ช่วงกลางวันก็มาท่องเที่ยวถ่ายรูป เพียงพอตกเย็นก็กินมื้อค่ำแบบไทยแท้บนเรือนไทยกรุ๊ป เป็นอีกบรรยากาศที่ไม่ควรพลาด ดังต่อไปนี้ เมืองดอกมะลิ รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๔ เปิดเมืองเต็มต้นแบบเหมือนเดิมเพิ่มเป็นวิถีใหม่ในวันที่ 5 มิถานายน 2563