IPD และ opd คือ อะไร ทำไมต้องรู้จักก่อนทำประกัน

               โรคภัยเป็นสิ่งที่ไม่อยากมีใครให้มันเกิดขึ้น แต่ก็เป็นอีกสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ อยู่ดีๆ เราอาจจะตรวจเจอโรคที่ไม่คาดคิดก็ได้ โรคก็มีอยู่มากมาย            เช่น อาการ ไข้หวัดใหญ่ ที่ทำให้ต้องใช้เงินค่ารักษาพยาบาลมากกว่าที่จะสามารถสำรองได้ไหว นี่จึงเป็นประเด็นที่ทำให้ผู้คนสนใจการทำประกันสุขภาพมากขึ้น

               คนส่วนใหญ่เมื่อป่วยแล้วก็มักนึกถึงการไปโรงพยาบาลเพราะมีแพทย์-บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และเครื่องมือตรวจรักษาที่ทันสมัยมากมายเพียงพอต่อการวางใจได้ว่าจะทำให้เราอาการดีขึ้น ทั้งนี้ก่อนทำประกันอุบัติหรือ โรคอาหารเป็นพิษ ร่วมถึงประกัน โรค ร้ายแรงอย่าง ประกัน มะเร็ง ประกัน โรค หัวใจ ก็ควรเข้าใจความหมายที่ถูกต้องของ ipd คือ opd คือ ก่อนด้วย ดังนี้

               opd คือ การเป็นผู้ป่วยนอกที่รักษาแบบไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ย่อมาจาก Out Patient Department คุณคงคาดได้ว่ามักเป็นการป่วยที่ไม่รุนแรงหรือเป็นโรคที่เกิดได้ง่ายพบได้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เป็นหวัดในช่วงฤดูฝน ท้องเสียจากอาหารเป็นพิษ ผื่นคันจากแมลงสัตว์กัดต่อยหรือแพ้อาหารเป็นต้น

               ส่วน ipd คือ In Patient Department อันหมายถึง ผู้ป่วยที่ต้องนอนในโรงพยาบาลหรือใช้เวลาตรวจรักษาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง จึงแสดงถึงความซับซ้อนหรือความรุนแรงของโรคที่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ อาจต้องมีการร่วมตรวจวินิจฉัยหรือรอผลตรวจหลาย ๆ อย่างเพื่อตัดสินใจเลือกวิธีรักษาอย่างเหมาะสม เช่น ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องทำบอลลูนหรือเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เป็นต้น

               1. ประกันสุขภาพแบบ opd คือ การทำกรมธรรม์ที่เหมาะกับทุกคนที่ไม่ต้องการเสี่ยงสำรองค่าใช้จ่ายเพื่อการรักษาพยาบาลด้วยโรคต่าง ๆ ที่พบได้ในชีวิตประจำวัน ทำได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงวัย และไม่จำกัดสาขาอาชีพ แต่จะมีระดับของเบี้ยประกันที่ต้องชำระต่างกันไป

               2. ประกันสุขภาพแบบ ipd คือ การทำประกันที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าแบบแรก เพราะคุ้มครองผู้เป็นเจ้าของกรมธรรม์นั้นทันทีที่ทำ ทั้งค่าห้อง ค่าตรวจ ค่าหัตถการทางการแพทย์ ค่าฉายแสง-เอกซเรย์ ฯลฯ  จึงเป็นชนิดกรมธรรม์ที่แนะนำให้ทุกคนทำสำรองไว้เสมอ ไม่ว่าจะใช้สิทธิรักษาพยาบาลแบบใดอยู่แล้ว เพราะสามารถใช้ควบคู่กันได้ จึงลดความกังวลได้แทบทุกประการหากเจ็บป่วยถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล

               ป้องกันไว้ย่อมดีกว่า เพราะอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วย เกิดขึ้นแบบเลี่ยงไม่ได้ ย่อมส่งผลต่อภาระทางการเงิน มีประกันสุขภาพก็จะช่วยให้อุ่นใจมากขึ้น รวมถึงแบ่งเบาภาระได้เยอะมาก