การปรับปรุงหรือรีโนเวทบ้านและที่อยู่อาศัยที่ได้ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้สภาพภูมิทัศน์นั้นมีความสวยงามและน่าอยู่มากขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยเพิ่มเติมฟังก์ชันดี ๆ จากนวัตกรรมบ้านใหม่ให้กับบ้านหลังเดิมได้อีกด้วย อาทิเช่น นวัตกรรมบ้านเย็นที่สามารถใช้ระบบในการระบายอากาศที่บริเวณหลังคาให้สามารถถ่ายเทความร้อนออกจากตัวบ้านได้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยไม่ต้องเปลืองค่าไฟ, เลือกใช้สีเคลือบกันความร้อนให้กับตัวบ้านหรือการเพิ่มช่องแสงธรรมชาติในบริเวณที่เป็นจุดอับแสงได้อีกด้วย ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ล้วนมีอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรยุคใหม่อยู่แล้วเพื่อให้ความสะดวกสบายและให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกับผู้พักอาศัย โดยผู้ประกอบการบ้านจัดสรรมักจะพยายามใช้นวัตกรรมเหล่านี้กับที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโครงการทาวน์โฮม, โครงการคอนโดมิเนียม รวมไปถึงโครงการบ้านเดี่ยว

            แต่สำหรับโครงการบ้านในยุคดั้งเดิมที่เจ้าของได้ซื้อไว้ก่อนมาเป็นเวลานานแล้ว ก็ยังสามารถเพิ่มฟังก์ชันดี ๆ เหล่านี้เข้าไปพร้อมกับการปรับปรุงสภาพบ้านได้เลย แต่สิ่งที่จะต้องคอยคำนึงถึงก่อนที่จะตัดสินใจปรับปรุงบ้านก็คือ “เงินทุน” สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งถ้าหากมีเงินออมของครอบครัวอยู่แล้วก็จะสามารถทำได้ทันที แต่หากว่ายังขาดความพร้อมทางด้านเงินทุน ก็จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยที่เป็นการกู้เงินต่อเติมบ้านจากสถาบันการเงินต่าง ๆ แทน ซึ่งในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยกำลังลดต่ำลงอย่างต่อเนื่องนี้ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการกู้ต่อเติมบ้านเพราะว่าจะทำให้มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงด้วยเช่นกัน

ข้อพิจารณาก่อนตัดสินใจกู้ต่อเติมบ้าน

1. ภาระเงินกู้เดิมยังอยู่หรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับการยื่นกู้ต่อเติมบ้านเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากว่าคุณยังมีภาระหนี้ที่อยู่อาศัยเดิม ก็จะสามารถยื่นขอกู้เงินต่อเติมบ้านจากสถาบันการเงินเดิมและมักจะได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสถาบันการเงินนั้นยังคงมีข้อมูลทางการเงินครบถ้วนอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่าหมดภาระหนี้เดิมแล้วก็ยังสามารถยื่นกู้เงินต่อเติมบ้านได้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ซึ่งจะได้วงเงินสูงถึง 80-100 % ของราคาประเมิน 

         2. เลือกแหล่งเงินทุนที่มีความเหมาะสม โดยปัจจุบันนี้มีสถาบันการเงินออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับการปรับปรุงที่อยู่อาศัยเป็นการเฉพาะซึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจได้แก่

- สินเชื่อเคหะธนาคารออมสิน ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินและมีอัตราดอกเบี้ย MRR-4% ในปีแรก, ปีที่สอง MRR-1% ส่วนปีที่3 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR-0.25%

- สินเชื่อบ้านเพิ่มสุข ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีอัตราดอกเบี้ยที่ 3.75% ในช่วง 2 ปีแรก ส่วนปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ MRR-2.75% ส่วนปีที่ 4 เป็นต้นไปจะอยู่ที่ MRR

- สินเชื่อบ้านได้เพิ่มจาก SCB สินเชื่อนี้เหมาะสำหรับลูกค้าของธนาคารที่ยังมีภาระผ่อนชำระหนี้บ้านกับธนาคารอยู่ โดยสามารถยื่นขอกู้เพิ่มด้วยอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมได้

เพียงเท่านี้ก็สามารถปรับปรุงสภาพบ้านให้สวยงามและสะดวกสบายขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านหลังใหม่ ใครที่มีโครงการบ้านของแสนสิริและอยากกู้เงินต่อเติมบ้านแสนสิริก็สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดำเนินการได้เลย และหากใครอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการกู้ต่อเติมบ้าน คลิกอ่านได้ที่นี่เลย https://www.sansiri.com/content/view/คำแนะนำกู้บ้าน-กู้ต่อเติมบ้าน-ทางออกของมนุษย์เงินเดือนมีงบจำกัด/th