เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ขับรถเป็นแต่ยังเลือกใช้ยางไม่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ เลยทำให้เห็นการเกิดอุบัติเหตุขึ้นเนือง ๆ ดังนั้นวันนี้จะมาแชร์เคล็ดลับการเลือกยางรถยนต์ ให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนกัน
สาเหตุที่รถยนต์มีหลายประเภทเพราะสไตล์การใช้งานของแต่ละคนนั้นต่างกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ยางรถยนต์ในบ้านเรามีให้เลือกหลากหลายประเภทตามไปด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสม เช่น รถ Eco Car เลือกใช้ ยางนุ่มเงียบ ก็พอ แต่หากเป็นรถ SUV ควรเลือกใช้ยางออฟโรดเพื่อการเกาะถนนที่ดีกว่าเป็นต้น ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเลือกใช้ยาง
-
เลือกใช้ดอกยางให้เหมาะกับการใช้งาน เพราะดอกยางที่ถูกออกแบบมาแตกต่างกันเพราะต้องการให้เลือกใช้ให้ถูกต้องด้วยประกอบด้วย
-
ดอกยางแบบสมมาตรหรือ 2 ทิศทาง (Non – Directional) โดยดอกยางจะมีรูปแบบเดียวกันทั้ง 2 ด้านซ้าย-ขวา เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องการความนุ่มนวลในการขับขี่ ใช้ความเร็วรถไม่สูงนัก สามารถสลับยางใช้ได้ทุกด้าน ดูแลรักษาง่ายรวมถึงประหยัดและคุ้มค่า
-
ดอกยางแบบไม่สมมาตรหรือทิศทางเดียว (Asymmetrical) โดยดอกยางจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันทั้ง 2 ด้าน เน้นการใช้งานกับรถที่มีสมรรถนะสูง ชอบใช้ความเร็ว ช่วยให้การเข้าโค้งทำได้แม่นยำ รวมถึงมีความสามารถในการเกาะถนนที่ดีกว่า
-
ดอกยางแบบกำหนดทิศทางการหมุน (Directional) ลักษณะของดอกยางจะมีลูกศรชี้ให้เลือกใส่ตามที่กำหนด เป็นยางที่มีความสามารถในการรีดน้ำได้ดี เกาะถนนได้ดี การเข้าโค้งทำได้อย่างนุ่มนวลเหมาะกับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูง
-
เลือกประเภทยางให้เหมาะสมกับการใช้งาน ประกอบด้วย
-
ยางนุ่มเงียบ ดอกยางจะมีความถี่และเรียบ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันบนเส้นทางที่ไม่มีความคดเคี้ยวมากนัก ใช้แล้วให้ความรู้สึกนุ่มนวลขณะขับขี่และไม่มีเสียงรบกวน
-
ยางสปอร์ต ถูกออกแบบมาสำหรับคนที่เน้นการเดินทางระยะไกล มีการใช้ความเร็วเป็นระยะ รวมถึงเข้าโค้งบ่อย โดยยางสปอร์ตเกาะถนนได้ดี จะติดที่มีความกระด้างและมีเสียงรบกวนบ้าง
-
ยางรถยนต์ที่บรรทุกของหนัก เหมาะกับการใช้กับรถกระบะ หรือรถบรรทุกของที่เน้นการรับน้ำหนักได้ดี เป็นยางที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยให้การเข้าโค้งทำให้มั่นใจมากขึ้น
-
ยางที่ใช้ได้กับทุกสภาพถนน หรือ All Terrain ซึ่งดอกยางถูกออกแบบมาให้สามารถลุยได้ทุกสภาพถนนทั้งเปียก ขรุขระ ลูกรัง หรือไต่เขาที่ทำให้ผู้ใช้ยังรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
-
ทำความเข้าใจกับตัวเลขบนแก้มยาง ก่อนการตัดสินใจซื้อเปลี่ยน เราควรเรียนรู้รหัสบนแก้มยางกันเสียก่อน โดยรหัสเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงคุณสมบัติของยางแต่ละแบบได้ เช่น P185/75R14 82S หมายถึง
-
185 คือหน้ายางกว้าง 185 มิลลิเมตร
-
75 คือแก้มยางมีความสูง 75% ของความกว้างยาง
-
R คือยางเรเดียล
-
14 คือเส้นผ่าศูนย์กลางล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว
-
82 คือพิกัดรับน้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 475 กก
-
S คือพิกัดความเร็วอยู่ที่ 180 กม/ชม
-
อายุของยางรถยนต์ โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งาน 3 – 5 ปี แต่ขึ้นอยู่กับสภาพยางและดอกยางด้วย ยิ่งหากมีการใช้งานในสภาพถนนที่แตกต่างไป เช่น ใช้งานบนถนนลูกรัง หรือถนนขรุขระบ่อย ก็ยิ่งเป็นสาเหตุให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิม ดังนั้นต้องตรวจเช็คสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ และควรสลับยางทุก 10,000 – 15,000 กม. เพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย
-
การดูแลหลังเปลี่ยนยางรถยนต์ ควรให้มีการตรวจเช็คลมยางให้มากกว่าปกติ หรือช่วง 3,000 กม. แรก เพราะโครงสร้างยางจะมีการขยายตัว รวมทั้งป้องกันลมรั่วซึมที่วาล์วและแกนวาล์วด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่คนใช้รถทุกคนควรให้ความใส่ใจ โดยหากกำลังตัดสินใจเปลี่ยนยาง หรือยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเปลี่ยน ยางรถยนต์ขอบ 17 ของยี่ห้อไหนดี สามารถเข้าเลือกชมยางรุ่นต่าง ๆ ได้ที่ www.bridgestone.com เพราะที่ Bridgestone มียางให้เลือกหลากหลายรูปแบบ คุณสามารถเลือกยางได้ตามสไตล์การขับขี่ หรือรุ่นรถ เช่น FIRESTONE F-01 FUEL FIGHTER เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล ปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน
[img]https://sv1.picz.in.th/images/2022/09/07/alsr71.md.jpg[/img]
| 
