ยาง Bridgestone กับ 7 เรื่องเข้าใจผิด อาจทำร้ายรถคุณทางอ้อม
วันนี้ ยาง Bridgestone จะมาแนะนำความรู้เกี่ยวกับยางรถยนต์ ที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับระบบขับเคลื่อนรถยนต์ที่พาคุณไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัยกับความเรื่องเข้าใจผิดต่อไปนี้เกี่ยวกับยางรถยนต์เพื่อที่จะนำไปใช้และเลือกซื้อยางรถยนต์ให้เหมาะสมกับรถตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน และหาคำตอบว่ายางยี่ห้อไหนนุ่มเงียบ
รถที่ใช้งานทุก ๆ วันย่อมมีแรงดันยางลดลง ประมาณ 1-3 ปอนด์ต่อเดือน เจ้าของรถควรดูแลและหมั่นตรวจสอบสภาพทุกครั้งก่อนใช้งานอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง หากยางเกิดอ่อนตัวลงเมื่อใดจะทำให้เกิดการเสียดสีมากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งการเกิดอุบัติเหตุยางระเบิดและสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงได้
หากใครที่ใช้รถเดินทางไกลแถบจะทุกวันอาจพิจารณาในการตรวจเช็กลมยางเป็นรายสัปดาห์เพื่อป้องกันความเสียหายและอุบัติเหตุได้ ในขณะที่รถที่กำลังจะเดินทางไกลควรเติมลมยางให้มากกว่าปกติ 1-4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพื่อช่วยลดแรงเสียดสีระหว่างพื้นถนนได้ เมื่อยางแข็งขึ้นก็สามารถช่วยประหยัดน้ำมันด้วย
โดยปกติศูนย์บริการจะให้คำแนะนำเรื่องของการสลับยางว่าจะต้องทำทุก ๆ 6 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ดอกยางสึกหรอก่อน เพื่อที่จะได้มีดอกยางที่สม่ำเสมอและเป็นการยืดอายุการใช้งานของยางออกไปได้ โดยเฉพาะยางล้อหน้าที่มักพบปัญหาการสึกของขอบยางภายนอกและภายในอยู่บ่อยครั้ง
ยางรถเก๋งยี่ห้อไหนดี ก็ควรเลือกใช้เพื่อบรรทุกหนัก ซึ่งจริง ๆ แล้วยางทุกเส้น ทุกยี่ห้อได้รับการออกแบบและผลิตตามค่ามาตรฐานที่เป็นสากล โดยเฉพาะในเรื่องของการรับน้ำหนักทั้งหมด จะมีตัวเลขที่ระบุดัชนี Load Index เอาไว้ เจ้าของรถเพียงตรวจสอบก็สามารถรู้ได้เลยว่ารถตนเองนั้น ยางสามารถรับน้ำหนักได้เท่าไร ห้ามบรรทุกเกินดัชนีเป็นอันขาด มิเช่นนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุยางระเบิดได้
อันดับแรกสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อทดแทนของเก่าที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุ เจ้าของรถควรเช็คขนาดของยางบนขอบยางด้วยตนเองเสียก่อนว่ามีขนาดเท่าไร เช่น ยางรถเก๋ง ขนาดกลาง Civic ที่เลือกใช้ยางขนาด 215/55 R16 ก็ควรเลือกใช้ยางที่มีขนาดเท่าเดิมหรือหากต้องการเปลี่ยนวงล้อแม็กซ์ที่ใหญ่ขึ้นก็ไม่ควรใหญ่เกิน 1 นิ้ว เพื่อสมรรถนะในการขับขี่และควรเปลี่ยนขนาดของยางที่ใหญ่ขึ้นตามล้อแม็กซ์ด้วย อาจไปใช้รุ่น 215/50 R17 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดความกว้างของวงล้อว่าจะเลือกยางที่มีหน้ากว้างเท่าใด
การตั้งศูนย์ถ่วงล้อโดยส่วนใหญ่จะต้องทำภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนยางใหม่ทุกครั้ง แต่ถ้าเป็นยางเก่าที่ใช้งานมากสักระยะควรให้ช่างตรวจสอบทุก ๆ 6 เดือน หรือ 10,000 กิโลเมตร เนื่องจากยางรถยนต์เมื่อมีการใช้งานจะเกิดการสัมผัสและเสียดสีกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา ทำให้หน้ายางเกิดการสึกหรอจึงจำเป็นที่จะต้องให้ช่างตรวจสอบและตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เมื่อจำเป็นอาจต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ก็เป็นได้
ยางรถยนต์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่มีการสึกหรออยู่ตลอดเวลา เนื่องจากยางต้องคอยสัมผัสกับพื้นถนนทุกรูปแบบ มีการเสียดสีจากการบังคับเลี้ยวจึงทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและที่สำคัญยางรถจะมีอายุโดยเฉลี่ยประมาณ 3-4 ปี หรือ 40,000 – 50,000 กิโลเมตร หากได้รับการดูแลรักษาที่ดีอาจยืดอายุได้นานถึง 60,000 กิโลเมตรก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างไรก็ควรเปลี่ยนยางเมื่อครบกำหนดอายุหรือพบสัญญาณเตือนเหล่านี้บนแก้มยาง เช่น รอยแตกบนผิวยาง ดอกยางแข็งกดแล้วไม่ยุบ เมื่อพบสัญญาณดังกล่าวควรรีบเปลี่ยนยางในทันที อาจประสบปัญหาในภายหลังได้เนื่องจากยางหมดอายุและเสื่อมสภาพ
ไม่ว่ารถคุณจะเป็นรถเก๋ง กระบะ รถตู้หรือรถเอสยูวี เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกยางให้เหมาะสมกับรถ มีผลการทดสอบจากโรงงาน ยึดเกาะถนนได้ดี ยางนุ่มเงียบ ซึ่ง ยาง Bridgestone เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย มียางทุกประเภทให้เจ้าของรถได้เลือกใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น BRIDGESTONE TURANZA T005A ที่แก้มยางออกแบบให้นุ่มนวล แต่แข็งแรง หยุดการสั่นสะเทือนได้ดี หรือ DUELER AT 001 ยางรถยนต์รุ่นเหมาะกับการออกไปทำกิจกรรม พื้นเปียกหรือแห้งไม่มีปัญหา
ที่มาของข้อมูล
