เมื่อคิดจะซื้อบ้าน แต่ว่ามีเงินสดไม่เพียงพอ ทางออกของคนส่วนใหญ่ก็คือการกู้เงินหรือขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านจากธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพราะสามารถเข้าถึงได้ง่ายและยังมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งก็จะมีอัตราดอกเบี้ยกำหนดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร โดยทั่วไปแล้วการกู้ซื้อโครงการบ้านนั้นมักจะเป็นการกู้แบบระยะยาว ซึ่งก็มีคำศัพท์ที่ควรรู้เอาไว้เพื่อประโยชน์ของผู้กู้ โดยในวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักให้มากขึ้นว่า mlr, mrr และ mor คือ อะไร

 

ก่อนจะไปดูความหมายว่า mrr คือ อะไร ต่างจาก mor และ mlr อย่างไรนั้น ขอแนะนำศัพท์อีก 2 คำ เพื่อการจำแนกประเภทได้ง่ายขึ้น โดยประเภทของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มี 2 แบบดังนี้ 

 

- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) คืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนดตามประกาศ ในช่วงเวลานั้น ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ตลาดเงิน และต้นทุนทางการเงินของแต่ละธนาคาร

 

- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed rate) คือการคิดดอกเบี้ยอัตราเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์เศรษฐกิจและต้นทุนของธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่การกู้ซื้อบ้านจัดสรร ทางธนาคารจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ เป็นระยะเวลาสั้น ๆ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อ

 

  คราวนี้เราก็จะมาทำความเข้าใจกันกับคำว่า mor, mrr และ mlr คือ อะไรให้มากขึ้น โดยศัพท์เหล่านี้เป็นการคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัวที่มีการปรับขึ้น-ลง ได้ตามที่กล่าวไปข้างต้น โดยแต่ละแบบมีความหมายต่างกันดังนี้

 

- Minimum Retail Rate หรือ mrr คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ ที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี ไม่มีประวัติเสียทางด้านการเงิน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยประเภทนี้ โดยแต่ละธนาคารจะกำหนดไว้ไม่เท่ากัน 

 

- Minimum Overdraft Rate หรือดอกเบี้ย mor คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ ที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี ธนาคารจึงต้องพิจารณาอย่างเข้มงวดมากขึ้นในการอนุมัติสินเชื่อ

 

- Minimum Loan Rate หรือ mlr คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนดเรียกเก็บลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี หมายถึงมีประวัติทางการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงพอ ซึ่งมักจะใช้กับเงินกู้ระยะยาวที่กำหนดระยะเวลาแน่นอน เช่น สินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ เป็นต้น

 

อัตราดอกเบี้ยแต่ละประเภททั้ง mlr, mrr และ mor นั้นมีความแตกต่างกัน โดย mrr > mor> mlr เพราะขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของผู้กู้ ซึ่ง mrr คืออัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้กู้รายย่อย ส่วน mlr และ mor คืออัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้กู้รายใหญ่ ซึ่งในบางครั้ง ทางธนาคารนั้นอาจจะเสนออัตราดอกเบี้ยแบบ mlr คือดอกเบี้ยสำหรับรายใหญ่ ให้กับผู้กู้รายย่อยที่มีความน่าเชื่อถือทางการเงินมากพอก็ได้ แล้วแต่ข้อกำหนดของธนาคารนั้น ๆ 

 

ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะเห็นอัตราดอกเบี้ยเพื่อซื้อโครงการบ้านเดี่ยวหรือว่าบ้านใหม่แบบอื่น ๆ เป็นตัวเลขแบบติดลบ เช่น mrr -1.5% หมายความว่า ถ้าในเวลานั้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำของธนาคาร A จะเท่ากับ 5.5% อัตราดอกเบี้ยเพื่อซื้อโครงการบ้านจัดสรรนั้นจะเท่ากับ (5.5%-1.5%) = 4% เวลาคำนวณเราต้องคิดอัตราดอกเบี้ยหลังจากลบ mrr แล้ว เพราะว่าแต่ละธนาคารจะมีการกำหนดอัตรา mrr ไว้ไม่เท่ากัน อัตราดอกเบี้ย mrr ที่ติดลบมากกว่าก็ไม่ได้แปลว่าจะมีค่าน้อยกว่า ค่า mrr ที่ติดลบน้อยกว่าเสมอไป ดังนั้นเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดเราต้องคิดให้รอบคอบก่อนจะยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารใด ๆ 

 

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ mrr คืออะไร ได้ที่นี่เลย https://www.sansiri.com/thai/คำแนะนำ/3-คำศัพท์ดอกเบี้ยบ้าน