ก่อนจะซื้อประกันรถ ผู้ใช้รถยนต์บางคนพิจารณาเปรียบเทียบเฉพาะค่าเบี้ยประกันเท่านั้น ไม่ได้มองความคุ้มครองว่าครอบคลุมถึงอะไรกันบ้าง ดังนั้นเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นไปได้ว่าจะไม่คุ้มครองเพราะทำประกันผิดแบบ ดังนั้นหากกำลังจะตัดสินใจว่าจะทำประกันภัยรถยนต์ควรเลือกทำแบบไหนถึงจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป หรือทำไปแล้วแต่อยากทราบเพื่อให้เข้าใจถึงความคุ้มครองว่าครอบคลุมถึงอะไรบ้าง เราไปดูกันว่าประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้นครอบคลุมถึงอะไรกันบ้าง

·       ประกันรถยนต์ชั้น 1

            ให้การคุ้มครองและครอบคลุมมากที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่หัดขับ หรือผู้ที่ต้องการความอุ่นใจในทุก ๆ กรณีเอาไว้ก่อน เพราะแม้ว่าฝ่ายเราเป็นฝ่ายผิด ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของเราและรถยนต์ของคู่กรณี รวมถึงชีวิตและร่างกายของคู่กรณีอีกด้วย รวมถึงกรณีรถยนต์สูญหาย หรือไฟไหม้ น้ำท่วมก็ครอบคลุมด้วยเช่นกัน

·       ประกันชั้น 2 พลัส

            คุ้มครองครอบคลุมทุกอย่างเหมือน ประกันชั้น 2 แต่เพิ่มความคุ้มครองรถของเราเข้าไปด้วย จะว่าไปก็คล้ายประกันชั้น 1 แต่แตกต่างตรงที่ไม่คุ้มครองถึงอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า ปีนฟุตบาท หินดีดใส่กระจก ยางระเบิด กรณีเหล่านี้ไม่ครอบคลุม ประกันชั้น 2 พลัส เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกับชั้น 1 แต่จ่ายค่าเบี้ยประกันน้อยกว่า แลกกับความคุ้มครองที่รองลงมาเล็กน้อย

·       ประกันชั้น 2

 รับผิดชอบครอบคลุมเกือบทุกอย่างเหมือน ประกันชั้น 1 รวมกรณี รถหาย ไฟไหม้ เพียงแต่ไม่รวมความเสียหายกับรถยนต์ของเรา และ น้ำท่วม กรณีมีอุบัติเหตุจะคุ้มครองเฉพาะคันของคู่กรณี ประกันชั้น 2 เหมาะสำหรับท่านเจ้าของรถที่ขับรถเก่งแล้ว หรือใช้รถน้อย

·       ประกันชั้น 3 พลัส

            คล้าย ประกันรถชั้น 3 แต่คุ้มครองมากขึ้นเหมือนประกันชั้น 2 ตรงที่คุ้มครองทั้งรถและคน ทั้งผู้โดยสารของรถคันคู่กรณีและผู้โดยสารคันของเรา เหมาะสำหรับท่านที่ขับน้อย แต่ต้องการความคุ้มครองที่มากกว่าประกันชั้น 3 แต่หากไม่คุ้มครองกรณีรถหาย เกิดเหตุไฟไหม้รถยนต์

·       ประกันรถชั้น 3

            คุ้มครองชีวิตและร่างกายทั้งผู้โดยสารของรถยนต์ที่ทำประกัน ของคู่กรณี และบุคคลภายนอก รวมถึงรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายที่เกิดต่อรถยนต์ของคู่กรณี แต่ไม่รับผิดชอบความเสียหายของรถยนต์เรา เหมาะสำหรับรถยนต์ที่เก่าอายุหลายปี หรือ ขับขี่ไม่บ่อย

ประกันภัยแต่ละประเภทนั้นได้ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับความคุ้มค่าของเบี้ยประกัน ไม่ว่าจะทำ ประกันชั้นไหน หากเราขับรถบนท้องถนนด้วยความไม่ประมาท เคารพกฎจราจร หากเกิดอุบัติเหตุถ้าเป็นฝ่ายถูกก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อไหร่ที่เป็นฝ่ายผิด ประกันภัยรถยนต์ก็ให้ความคุ้มครองทันที คราวนี้ขึ้นอยู่กับว่าท่านทำประกันชั้นไหนไว้ ก็จะเลือกคุ้มครองตามกรมธรรม์ที่กำหนด เพราะฉะนั้นเลือกทำประกันในชั้นที่เหมาะสม และที่สำคัญต้องเลือกซื้อจากบริษัทฯ ที่เชื่อถือได้และมีบริการหลังการขายที่ดูแลไม่ทอดทิ้ง บริการรวดเร็วทันท่วงที เพื่อความคุ้มค่ากับเบี้ยประกันที่จ่ายไป

ชมเพิ่มเติมได้ที่

https://online.scbprotect.co.th/motor/type-3-plus