ธนาคารพาณิชย์ที่มีนโยบายรองรับผู้ที่สมรสไม่จดทะเบียนซื้อบ้านนั้นมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารยูโอบี โดยผู้กู้ร่วมนั้นจะต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้

                        -              เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย

                        -              มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ แต่ต้องไม่เกิน 65 ปี

                        -              ไม่เคยเป็นลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงิน

            เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการกู้ร่วมซื้อบ้าน เช่นเดียวกับเอกสารที่ต้องใช้ในการขออนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อโครงการบ้านทั่วไป โดยจะต้องมีเอกสารส่วนตัวและเอกสารชี้แจงทางการเงิน โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 

            1. เอกสารส่วนตัว: สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน และ ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) 

            2. เอกสารทางการเงิน

                        ·      สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ: รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน และใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 

                        ·      สำหรับเจ้าของธุรกิจ: สำเนาทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท, รายชื่อผู้ถือหุ้น, รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน, สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี, หลักฐานการเสียภาษี และรูปถ่ายกิจการ 4-5 ภาพ พร้อมแผนที่ตั้งโดยสังเขป

                        ·      สำหรับผู้ทำงานประจำ: หนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน และรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

            หากใครที่เคยยื่นเรื่องขอกู้ร่วมซื้อบ้านแสนสิริ แต่ยังไม่ผ่าน เพราะติดเงื่อนไขต่าง ๆ มากมาย ในวันนี้เราก็มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน ที่จะช่วยทำให้การยื่นขออนุมัติสินเชื่อของผู้สมรสไม่จดทะเบียนซื้อบ้านเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยแนะนำให้ใช้วิธีการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ (SME) ซื้อโครงการบ้านจัดสรร ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวหรือว่าบ้านทาวน์โฮม เพื่อใช้เป็นสถานประกอบการ แต่การยื่นขอซื้อบ้านจัดสรรเพื่อใช้เป็นสถานประกอบการแบบนี้มีระยะเวลาการกู้ได้นานสุด 10 ปี และมีดอกเบี้ยที่สูงกว่าการซื้อบ้านใหม่อีกด้วย ถ้าวิธีนี้ยังไม่ตอบโจทย์ ก็อาจจะต้องเลือกใช้วิธีเปลี่ยนผู้กู้ร่วมจากคู่รักเพศเดียวกันเป็นกู้ร่วมกับญาติ พี่น้อง หรือคนในครอบครัว ที่สามารถเข้ากับเงื่อนไขของธนาคารต่าง ๆ ได้ 

            บางคนอาจจะคิดว่าการที่มีนโยบายที่รองรับ LGBTQ นี้แล้ว จะทำให้การขออนุมัติสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านเป็นไปได้ง่ายขึ้น เพราะเลือกคนรู้จักที่มีฐานะการเงินเพียงพอก็ใช้ได้ แต่ก็อย่าลืมว่าจะต้องเลือกคนที่สามารถไว้วางใจได้ด้วย เพราะถ้าหากเป็นการถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน อาจมีปัญหาตามมาได้ ดังนั้นจะเลือกใช้วิธีไหนก็ควรพิจาณาให้ดีก่อนด้วย

            หากอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมรสไม่จดทะเบียนซื้อบ้าน คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย https://www.sansiri.com/thai/คำแนะนำ/3-ทางเลือกช่วย-LGBTQ-กู้ร่วมซื้อบ้านได้แบบง่ายๆ